ฉลาดซื้อสุ่มซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ทดสอบความคุ้มให้ผู้บริโภคค่ะ
ปัจจุบันการทำอาหารรับประทานเองสำหรับบางครอบครัว อาจถูกจำกัดจากสภาพของที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะในเมืองที่มีความหนาแน่นของประชากรสูงอย่างกรุงเทพฯ ซึ่งมีหลายครอบครัวที่พักอาศัยอยู่ในอาคารชุดที่มีเนื้อที่ใช้สอยค่อนข้างจำกัด ทำให้การแบ่งส่วนทำห้องครัวไว้ใช้งานจึงเป็นเรื่องยาก แถมอาคารชุดบางแห่งยังกำหนดไว้ชัดเจนว่าห้ามผู้พักอาศัยใช้เตาแก๊สในการประกอบอาหาร
แต่ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี เราสามารถประกอบอาหารโดยไม่ต้องอาศัยพื้นที่จำนวนมากหรือพึ่งเตาแก๊ส เพราะมีตัวช่วยอย่าง “เตาแม่เหล็กไฟฟ้า” (Induction Hot Plate) ซึ่งมีวางขายอยู่ในท้องตลาดมากมายหลายยี่ห้อ ราคาตั้งแต่หลักร้อยจนไปถึงหลักพัน
นิตยสาร “ฉลาดซื้อ” ร่วมกับเครือข่ายนักวิชาการเพื่อผู้บริโภค ได้สุ่มซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีขายอยู่ ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ จำนวน 15 ยี่ห้อ มาทดสอบเปรียบเทียบในเรื่องของการใช้งาน การประหยัดพลังงาน ฯลฯ ซึ่งผลทดสอบนี้จะเป็นแนวทางที่ช่วยให้ ผู้บริโภคที่กำลังสนใจซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้ทราบถึงข้อมูลเบื้องต้นเพื่อที่จะเลือกซื้อได้ตรงกับความต้องการและงบประมาณที่ตัวเองมีอยู่
ข้อสรุปที่น่าสนใจ คือ เตาแม่เหล็กไฟฟ้าหลายยี่ห้อประหยัดพลังงานกว่าเตาไฟฟ้าที่ทำจากเหล็กหล่อ หรือเตาอินฟราเรด และถือว่าปลอดภัยเมื่อต้องใช้งานในอาคารสูงอย่างคอนโดมิเนียมหรืออพาร์ตเมนต์
อย่างไรก็ตาม เตาแม่เหล็กไฟฟ้าไม่สามารถใช้ได้กับภาชนะที่ไม่มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็ก เช่น อะลูมิเนียม หรือกระเบื้อง แต่ข้อดีของเตาแม่เหล็กไฟฟ้าที่สำคัญก็คือเรื่องการส่งความร้อน ที่จะเกิดขึ้นเฉพาะจุดที่ใช้สำหรับวางภาชนะเท่านั้น โดยจะไม่มีการส่งความร้อนไปยังบริเวณรอบๆ ซึ่งถือว่าช่วยในเรื่องความปลอดภัยเรื่องการสัมผัสความร้อนได้
การเก็บบำรุงรักษาเตาแม่เหล็กไฟฟ้าควรระมัดระวังเรื่องการกระแทก เนื่องจากแผ่นเตาเป็นวัสดุที่ ทำมาจากแก้วหรือเซรามิก จึงมีความเปราะบาง และเวลาเช็ดล้างทำความสะอาดก็ไม่ควรใช้โลหะหรือฝอยขัดหม้อขัดที่ผิวเตา ซึ่งหากเกิดการแตกร้าวขึ้นที่เตาก็ไม่ควรใช้งานต่อ
