0

รายการที่ชื่นชอบ

Food Spy สายสืบอาหารปลอดภัย ตอน ทิชชูสารพัดประโยชน์

Food Spy สายสืบอาหารปลอดภัย ตอน ทิชชูสารพัดประโยชน์

กระดาษทิซชูมีคุณประโยชน์มากมายนับไม่ถ้วนตามแต่ความคิดสร้างสรรค์ของคนใช้จะจินตนาการออกมาได้ บ้างใช้เช็ดหน้าเช็ดตาซับเหงื่อบ้างใช้ทำความสะอาดสิ่งสกปรก บ้างใช้ทำงานประดิษฐ์ แต่ขอโทษครับในฐานะสายสืบอาหารปลอดภัย (หรือในฐานะอื่นก็ตาม) ผมขอฟันธงเลยว่า กระดาษทิซชูไม่ได้มีไว้กินแน่ ๆ

สำหรับคนที่ที่ทำงานกับบ้านอยู่ไกลกันมากกว่า 3 สายรถเมล์อย่างผม อาหารเย็นที่ง่ายสะดวกรวดเร็วและราคาถูกเป็นสิ่งจำเป็นถึงจำเป็นที่สุด นอกจากจะประหยัดด้วยราคาเกิน 10 บาทเล็กน้อยพร้อมเติมผักไม่อั้นแล้ว ความใกล้ขนาดกินเสร็จขึ้นรถเมล์ได้เลยทำให้ร้านขนมจีนย่านบางกะปิเป็นทางเลือกของผมบ่อย ๆ

ความกลมกล่อมของน้ำยาความกรอบของลูกชิ้น ความนิ่มของขนมจีน และความสดของผักนำความอร่อยมาสู่ขนมจีนของผมเสมอ ๆ ทุกมื้อผมไม่เคยที่จะจบที่ 1 ชาม ที่สำคัญไม่เคยที่จะสำเหนียกเลยว่ารสสัมผัสของเนื้อปลาช่อนชิ้นเล็ก ๆ ในน้ำยามันเฝื่อน ๆ ลิ้น...

จนกระทั่งวันหนึ่งหลังจากอิ่มเอมจนเต็มคราบจากขนมจีนเจ้าประจำมากกว่า 4 ชาม เหตุจำเป็นจากที่ทำงานบังคับให้ผมต้องไปใช้บริการอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ถัดไปด้านหลังตึกแถวร้านขนมจีน

ซอกตึกแห่งนั้น มีกะละมังวางอยู่ 4 ใบ ใบหนึ่งกำลังถูกยกเข้าไปในตึกแถวแห่งหนึ่งบริเวณนั้น คราแรกผมมองผ่านด้วยหางตานึกฉงนว่าอะไรอยู่ในกะละมังมันเป็นเศษสีขาว ๆ เทา ๆ กองรวมกันเป็นภูเขาย่อม ๆ

ครั้นเหลือบสายตาไปที่ป้าคนหนึ่งที่นั่งอยู่ริมกะละมังด้านในสุดผมก็ตะลึงกับภาพที่เห็น เศษสีขาว ๆ เทา ๆ นั้นคือกระดาษทิซชูที่ถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ เล็ก ๆ ขนาดเท่าเศษขนมปังด้วยมือของป้าคนนั้น (ป้าแกขะมักเขม้นมาก ๆ)

รีเวิร์ดไปที่ภาพคนที่ยกกะละมังใบแรกเข้าไปในตึกแถวคนที่ยกคือเจ้าของร้านขนมจีนเจ้าโปรดของผมเอง

...ปะติดปะต่อกันลงตัว เศษกระดาษทิซชูกองรวมกันในกะละมัง + เจ้าของร้านยกกะละมังนั้นเข้าไปในตึก+ รสเฝื่อนลิ้นของเนื้อปลาชิ้นเล็ก ๆ ในขนมจีน

ขอบคุณเจ้าของร้านที่อย่างน้อยกระดาษทิซชูเหล่านั้นก็ไม่ใช่กระดาษทิซชูใช้แล้ว เพราะผมเห็นป้าคนฉีกแกแกะออกมาจากแพ็กสดๆ

เจ้าของร้านนี้ช่างมีจิตสำนึกเสียนี่กระไรอุตส่าห์ใช้ทิซชูใหม่แกะกล่องแทนเนื้อปลาช่อน

โอ้ละหนอ my life ไม่ใช่ โอ้ละหนอ my love แบบพี่เบิร์ดนะครับงานนี้ทำเอาทีมสายสืบอาหารปลอดภัยอดรนทนไม่ไหวต้องรีบประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นการด่วนเพราะการกระทำของแม่ค้าอย่างนี้เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค และพ.ร.บ.สาธารณสุข เรื่อง การกระทำผิดสุขลักษณะอาหาร หวังหลอกลวงผู้บริโภค ซึ่งถ้าเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าร้านขนมจีนดังกล่าวทำผิดตามที่แจ้งจริง จะมีสิทธิยึด หรืออายัดอาหารมาดำเนินคดีตามมาตราที่ 44 (4) เรื่องอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานในการยึดอายัดสินค้าที่อาจจะเกิดอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนและสั่งห้ามไม่ให้จำหน่ายอาหารต่อไป

นอกจากความผิดด้านกฎหมายแล้วการนำกระดาษทิซชูมาปลอมปนในน้ำยาของขนมจีนยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพผู้บริโภคอีกด้วยเพราะกรรมวิธีการผลิตกระดาษทิซชูจะมีส่วนผสมของโลหะหนัก ประเภทสารตะกั่ว สารปรอทและสารฟอกขาว

ดังนั้น การนำทิซชูมาปนในอาหารขายให้ผู้บริโภคตาดำ ๆ เช่นเราจะทำให้เราได้รับการสะสมพิษจากสารตะกั่ว สารปรอท (สารฟอกขาวอาจจะน้อยเนื่องจากมีการระเหยจากความร้อนในการปรุงอาหาร) ก่อให้เกิดโรคมะเร็งรวมทั้งโรคมินามาตะ หรือพิษจากสารปรอท ทำให้เกิดอาการทางสมองและประสาท เช่น สั่น เดินเซ ชา แขนขาอ่อนแรง มีอาการทางจิต สายตา ระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะอาการไตวายเฉียบพลัน หากเกิดอาการเหล่านี้ไม่สามารถรักษาให้เป็นปกติได้แต่สารปรอทจะถูกร่างกายขับออกไปทีละน้อยถ้าไม่ได้รับในปริมาณมาก

ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยผู้บริโภคควรหมุนเวียนอาหาร ไม่รับประทานอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งซ้ำซากอยู่เป็นประจำ แม้ขนมจีนจะเป็นของโปรด ราคาประหยัด แต่คงไม่คุ้มถ้าต้องเสียค่ารักษาพยาบาลระยะยาว

. ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นเครือข่ายสายสืบอาหารปลอดภัย (Food Spy) ตรวจตราอาหารและสถานที่จำหน่ายไม่ว่าจะเป็น ตลาดสด ร้านอาหารแผงลอยที่ไม่ถูกสุขอนามัย แล้วแจ้งเบาะแสมายัง โทรศัพท์ 0-2590-4109, 0-2590-4096 หรือ สายด่วน 1675 หรือ www.thaihealth.or.th และ www.anamai.moph.go.th/foodspy

ร่วมสืบเสาะโดย เดลินิวส์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

http://www.dailynews.co.th/dailynews/pages/front_th/popup_news/Default.aspx?ColumnId=18477&NewsType=2&Template=1
_________________